อุบาสิกาอรนุช ฐิติญาณพร
เธอเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 และเธอละสังขารในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2552 รวมอายุได้ 51 ปี ซึ่งเข้ามาสร้างบารมีในวัดตั้งแต่ปี 2525 และเข้ามาเป็นอุบาสิการุ่นที่ 9 ในปี 2537 ร่วมเวลาในการสร้างบารมีของเธอทั้งหมดกว่า 27 ปีซึ่งอุบาสิกาอรนุช เป็นยอดนักสร้างบารมีที่เป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างบารมีที่ทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ทุกหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมาย เธอจะตั้งใจทำอย่างดีที่สุด ทั้งละเอียดรอบคอบ ถูกต้องแม่นยำ เป็นระบบระเบียบ จนหัวหน้างานเบาใจและไว้วางใจในฝีมือของเธอเธอมีคติที่ว่า “ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด จนสุดฝีมือ” ข้อผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับโอวาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และหนังสือประวัติชีวิต และคำสอนของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เธอจะปลื้มในบุญนี้ทุกครั้ง เธอเคยบอกว่า “พี่นุชมีความสุขมากในการทำหนังสือประวัติชีวิตและโอวาทของมหาปูชนียาจารย์ ยิ่งทำยิ่งซาบซึ้งในคุณธรรมความดีงามของพระเดชพระคุณหลวงพ่อและคุณยายฯ ได้ตอกย้ำเป้าหมายชีวิตในการสร้างบารมีให้มั่นคงยิ่งขึ้น ธรรมะที่กลางกายของพี่นุชก็สว่างไสวตามโอวาทของหลวงพ่อไปด้วย ทำให้ยิ่งศรัทธาในความมุ่งมั่นในการสร้างบารมีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านทั้งสอง และนำมาเป็นแบบอย่างในการสร้างบารมีของตนเองอีกด้วย”อุบาสิกาอรนุช เธอเป็นยอดต้นบุญต้นแบบในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความมีระเบียบวินัย รักษาสมบัติพระศาสนา รักหมู่คณะ ความทุ่มเทในการสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
ภาพชีวิตในการสร้างบารมี
เธอบอกกับตัวเองว่า ชีวิตในการสร้างบารมีในโลกนี้มันสั้นนัก เธอจึงเร่งสร้างบารมีชนิดที่ว่า ไม่มีวันพัก วันหยุด ไม่มีการลากลับบ้าน ไม่มีการลาพักผ่อน มีแต่การทำงานล่วงเวลา เกินเวลา เพราะการพักของเธอคือการนั่งหลับตาทำสมาธิ เธอจะจัดสรรแบ่งเวลานั่งสมาธิหลังเพลประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวบุญละเอียดตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนไว้ หรือมีโอกาสก็จะไปนั่งสมาธิ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานสร้างบารมีต่ออย่างไม่มีวันหยุด มีแต่วันสร้างบารมีและทำใจหยุดในหยุด ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปและวันพรุ่งนี้ วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน จะเป็นวันสลายร่างเธอ ซึ่งจะมีพิธีจุดไฟแก้วในเวลา 15.00 น. ณ ทางเข้า 5 สภาธรรมกายสากล และเวลา 17.30 น. จะเป็นพิธีจุดไฟแก้วชำระร่าง ณ ปทุมเจดีย์ อยู่บริเวณทิศเหนือของมหาธรรมกายเจดีย์
http://goo.gl/m3mLN